วันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2566

“เพชรตาแมว” เครื่องรางวิเศษของผู้มีบุญ

"เพชรตาแมว" เป็นเครื่องรางกายสิทธิ์ ที่นับถือกันมาช้านาน เป็นของวิเศษที่ใครๆ ก็ต้องการ แต่ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถครอบครองได้ ต้องเป็นผู้มีบุญวาสนา ถึงจะได้พบเจอกับแมวตาเพชร และต้องปฏิบัติเลี้ยงดูใส่ใจกันอย่างดี แมวตัวนั้นถึงจะรักและสำนึกในบุญคุณ อยู่ด้วยจนหมดอายุขัย และมอบเพชรในตาของมันให้เจ้าของได้ครอบครองเป็นสมบัติติดตัว

จากในตำราครูบาอาจารย์ท่านบันทึกไว้ว่า "เพชรตาแมว" วิธีสังเกตุว่าแมวตัวใดเป็นแมวตาเพชร แมวตัวนั้นกลางวันจะเชื่องช้า นัยน์ตาของมันหรี่เล็ก บางตัวตาแฉะ มีขี้ตาเกรอะกรังไม่น่าดู แต่พอในเวลากลางคืน แมวเหล่านี้จะมีกิริยาปราดเปรียวว่องไว นัยน์ตาจะเบิกกว้างมีรัศมีเป็นประกาย เมื่อมันออกหากินยาวค่ำคืน เมื่อเห็นเหยื่ออยู่บนที่สูง เช่น จิ้งจก นก หนู มันจะยืนจ้องสัตว์เหล่านั้น ด้วยพลังจากเพชรในตาแมว ทำให้เหยื่อเหล่านั้นหล่นตกลงมาให้มันตะปบกินโดยง่ายดาย

ผู้ที่มีแมวตาเพชร (เพชรตาแมว) เลี้ยงเอาไว้ โดยใส่ใจดูแลเป็นอย่างดี มันจะให้คุณแก่เจ้าของ ทำให้มีความเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าคนในบ้านดุด่า เอาเท้าไปแตะตีมัน แมวตาเพชรจะหนีไปอยู่ที่อื่น ไม่กลับมาบ้านนั้นอีกเลย หากผู้ใดมีเลี้ยงไว้อย่างดี จนมันแก่เฒ่าหมดอายุขัย ให้นำไปฝังไว้ในที่อันควร แมวตาเพชรตัวนั้นจะระลึกถึงคุณเจ้าของ

ในวันที่ฤกษ์งามยามดี แมวตาเพชรตัวนั้นจะมาเข้าฝันเจ้าของ มาร้องวนเวียน คลอเคลียเจ้าของ มองเห็นดวงตาลุกวาวเป็นประกาย แล้วจู่ๆ ก็หายวับไปกับตา จนเจ้าของตกใจตื่น ให้มองหารอบๆ กาย จะมีแก้วตาแมว “เพชรตาแมว” หล่นอยู่ข้างที่นอนนั่นเอง โดยจะมีความแวววาวเป็นประกายงดงามมาก 

บางรายเห็นเป็นตัวแมวเป็นๆ จริงๆ มาหาในยามค่ำคืนเลยก็มี มาคลอเคลีย แล้วเดินหายวับไปกับตา เหลือเพียงแก้วตาแมวหล่นแวววับอยู่ตรงนั้น มีรัศมีเป็นประกาย บางรายได้ครบทั้ง ๒ ดวง บางรายได้รับเพียงแค่ดวงเดียว อยู่ที่ว่าแมวตัวนั้นจะทิ้งไว้ให้เจ้าของมันกี่ดวง

ท่านว่าในเพชรตาแมวนั้น มีเทวดาคอยรักษาอยู่ ต้องเป็นผู้มีบุญวาสนาจึงจะได้เป็นสมบัติครอบครอง และสามารถตกทอดมาสู่ลูกหลานเจ้าของต่อไปได้ แต่หากดูแลรักษาไม่ดี ไม่รู้จักบูชาเซ่นสรวงเทวดาและวิญญาณของแมวตัวนั้นแล้ว แก้วตาแมวหรือเพชรตามแมวดวงนั้นจะอันตรธานหายไปเอง แม้จะเก็บไว้ในตู้เซฟอย่างดีก็ตาม

เพชรตาแมว หรือแก้วตามแมวกลายเป็นหินนี้ มีรัศมีเป็นประกายดุจเพชร ถ้าจะนำมาทำเป็นหัวแหวน หรือจี้ห้อยคอ ให้ใช้เนื้อสามกษัตริย์เท่านั้น คือ เงิน, ทอง, นาค นำมาเชื่อมติดต่อกัน ถ้าใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือโลหะอื่น เพชรตาแมวจะหล่นหายไป เกาะยึดไว้ไม่อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์

สำหรับ “เพชรตาแมว” เป็นเครื่องรางกายสิทธิ์ สุดวิเศษ มีพลานุภาพในตัว ใครมีบุญวาสนาได้ครอบครอง จะช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเป็นเศรษฐี สามารถป้องกันภัยพิบัติ และป้องกันอันตรายทั้งหลายทั้งมวลได้ดีนัก จงเก็บรักษาบูชาไว้ให้ดีเถิด ใครที่คิดจะขโมยปล้นไป เอาไปก็จะวิบัติไม่สามารถครอบครองได้ นอกจากเจ้าของที่แมวตัวนั้นมอบให้ หรือเหล่าทายาทที่สืบต่อกันมาเท่านั้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น