ถ้าจะพูดถึงเบี้ยแก้ แน่นอนว่ามีอยู่ไม่มากนัก ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ แบบครอบจักรวาล เบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก จันทสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ตำบลโพธิ์ม่วงพันธุ์ อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง ก็เป็นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร เพราะเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพักนั้น มีสรรพคุณวิเศษที่ครบทุกสาย สารพัดที่จะใช้ได้
หลวงพ่อพัก จันทสุวัณโณ ได้ถูกชาวบ้านนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๕ ซึ่งหลังจากท่านมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส นอกจากจะพัฒนาวัดแล้ว ท่านยังสร้างวัตถุมงคลเพื่อช่วยสงเคราะห์ญาติโยมในสมัยนั้นมากมาย เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ เป็นที่ร่ำลือเล่าขานกันปากต่อปากจนโด่งดังไปถ้วนทั่ว
ประวัติการสร้างเบี้ยแก้ของท่านไม่ค่อยมีบันทึกไว้อย่างแน่ชัดนัก ว่ากันว่าเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ รูปลักษณ์ก็คล้ายๆ กับของคณาจารย์อื่นๆ ในจังหวัดอ่างทอง แต่จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันบ้าง โดยเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก ใช้เบี้ยจั่นในการทำเช่นเดียวกัน ซึ่งเลือกหอยเบี้ยที่มีคุณลักษณะตามตำรา แล้วหาฤกษ์งามยามดีทำพิธีเรียกปรอทให้วิ่งเข้าไปอยู่ในหอยเบี้ย
เสร็จแล้วหลวงพ่อพักจะปิดปากหอยด้วยชันนะโรงใต้ดิน และนำตะกรุดที่ท่านได้จารไว้ก่อนแล้ว ม้วนแล้วทุบให้แบนทาบลงไปบนชันนะโรงปิดปากหอยเบี้ยแก้อีกชั้นหนึ่ง เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังแก่เบี้ยแก้เป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นก็ถักเชือกหุ้มเบี้ยแก้ไว้ โดยลายเชือกถักเบี้ยแก้ ใช้ถักแบบลายกระสอบ เปิดหลังเบี้ยแก้ให้เห็นลายหอยเบี้ยแก้ชัดเจน โดยถักให้มีห่วงด้านบนหนึ่งห่วงบ้าง หรือห่วงด้านปากเบี้ยแก้สองห่วงบ้าง แล้วนำไปจุ่มยางรักเพื่อความคงทนอีกชั้น เป็นอันจบพิธี
สรรพคุณเบี้ยแก้ หลวงพัก วัดโบสถ์ ท่านว่ากันได้สารพัด กันคุณไสย คุณคน ยาสั่ง ภูตผีปีศาจ ทั้งยังแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน หรือใช้ทำน้ำมนต์ถอดถอนของ รักษาอาการเจ็บป่วย ได้อย่างสารพัดนัก
เบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก จันทสุวัณโณ วัดโบสถ์ ท่านสร้างน้อยมาก เพราะใกล้เคียงกันนั้น มีหลวงปู่คำ ปัญญาสาโร วัดโพธิ์ปล้ำ และหลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม วัดนางใน ที่สร้างเบี้ยแก้เช่นเดียวกัน ของหลวงพ่อพักท่านจึงสร้างเครื่องรางอย่างอื่นอีกหลายอย่าง เช่น สิงห์เกะ ของหลวงพ่อพัก เล่ากันว่าพกเดินผ่านฝูงวัว ถึงขั้นวัวตกใจวิ่งหนีกระจาย ดังนั้นเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก แม้จะมีน้อย แต่คุณวิเศษนั้นไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ผู้ใดมีไว้ในปัจจุบันถือว่ามีบุญวาสนายิ่งนักครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น