วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง

 

เมื่อพูดถึง เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง สายเครื่องรางของขลัง หรือนักสะสมวัตถุมงคล คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก เพราะสรรพคุณนั้นโด่งดัง และมีบันทึกกันไว้อย่างชัดเจน เชื่อกันว่าหลวงปู่รอด คือปฐมบทของการสร้างเบี้ยแก้ในประเทศไทยเลยทีเดียว

หลวงปู่รอด ท่านเป็นชาวบางพรม แถวตลิ่งชัน จ.ธนบุรี เริ่มเดิมทีนั้นท่านได้อุปสมบท ณ วัดเงิน (วัดรัชฎาธิษฐาน) แถวคลองบางพรม ซึ่งในสมัยนั้นวัดเงิน ถือว่าเป็นวัดที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องวิปัสสนา ต่อมาหลวงปู่รอดได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดนายโรง อยู่ที่แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ และได้ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดนายโรง เป็นลำดับที่สองต่อมา

ในขณะนั้นไม่มีใครทราบว่าหลวงปู่รอด วัดนายโรง ท่านสร้างเบี้ยแก้ได้ จนมาวันหนึ่งโยมที่อยู่หน้าวัดนายโรง ชื่อโยมชั้น โยมชิด และโยมชม มานิมนต์หลวงปู่รอดไปช่วยทำพืธีโกนจุกลูกที่บ้าน เมื่อหลวงปู่รอด ทำพิธีโกนจุกให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านได้หยิบเบี้ยแก้ มอบให้เด็กผู้นั้นไว้ด้วย เพื่อคุ้มครองโพยภัย เป็นเบี้ยแก้สารพัดแก้ กันแก้ได้ทุกอย่าง ผีสางนางไม้ก็ทำอะไรไม่ได้


หลังจากนั้นปรากฏว่าโยมทั้งสามได้พบเจอความอัศจรรย์ ของเบี้ยแก้กันอยู่มากครั้ง จนตัดสินใจเข้าไปกราบขอเบี้ยแก้แก่หลวงปู่รอด ในวัดนายโรงเพิ่มคนละตัว แต่หลวงปู่รอดท่านไม่มีแล้ว และสั่งว่าถ้าอยากได้ให้ไปหาของมาให้ท่าน ท่านจะทำให้ โดยมีดังนี้

  • หอยเบี้ย เบี้ยจั่น หรือพลู
  • ปรอท อันนี้ไม่ต้องหามา หลวงปู่ท่านไปจับมาเอง
  • ตะกั่วนม เอามาปิดฝา
  • ชันนะโรงใต้ดิน ใช้ปิดทับอีกชั้น

จากนั้นจะมีการถักเชือกหุ้มเบี้ยแก้ไว้อีกชั้น แล้วนำไปจุ่มยางตะโก หรือยางมะพลับ เคลือบเชือกถักให้แน่นคงทน สันนิษฐานกันว่า เพราะในสมัยนั้นยังไม่มียางรักในการเคลือบนั่นเอง นับว่าเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง มีกรรมวิธีการสร้างละเอียดหลายขั้นตอนมาก

วิธีการจับปรอท ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง เล่ากันว่าท่านใช้น้ำซาวข้าว หรือน้ำหุงข้าว ที่สมัยก่อนหุงแบบเทน้ำออก หลวงปู่ท่านใช้น้ำนั้นเทลงไปตามร่องน้ำ ที่คิดว่ามีปรอทอาศัยอยู่ จากนั้นท่านก็นำไข่ไก่ เจาะรูด้านบนแล้วนำไปวางดักไว้ที่ร่องน้ำนั้น หลวงปู่รอดก็บริกรรมพระคาถาเรียกปรอทนั้นมา เพื่อให้เข้าไปรวมตัวกันในไข่ไก่ที่เจาะรูไว้จนเต็ม แล้วจึงนำออกมาใช้ทำเบี้ยแก้

หลังจากประกอบพิธีปลุกเสกด้วยพุทธาคมและเวทย์วิทยาคมตามกรรมวิธีของท่าน เมื่อผ่านพิธีปลุกเสกแล้ว หลวงปู่จะมอบให้ลูกศิษย์ไว้ติดตัวเพื่อป้องกันและแก้ไขอันตรายต่าง ๆ ปัจจุบันเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด เป็นวัตถุมงคลที่หาได้ยากและมีคุณค่า

ลักษณะพิเศษเบี้ยแก้หลวงปู่รอด เบี้ยแก้ของหลวงปู่ จะมีลักษณะพิเศษที่พอสังเกตได้ดังนี้ 

ตัวเบี้ย หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกว่า เบี้ยพลู มีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก จะมีขนาดความยาว ประมาณ ๓.๔ -๓.๕ ซ.ม. และกว้าง ๒.๔-๒.๕ ซ.ม. ลักษณะภายใน หากจับเขย่าดู จะมีเสียงดังเบา ๆ ซึ่งเป็นเสียงปรอทที่บรรจุไว้ภายในบริเวณใต้ท้องเบี้ยแก้ จะมีชันโรงใต้ดินปิดอยู่ ตั้งปากเบี้ยจนถึงท้องเบี้ย และชันจะเกาะติดแน่นอยู่กับท้องเบี้ย เบี้ยแก้ทุกตัว จะหุ้มด้วยแผ่นตะกั่วนมอย่างดีและประณีตบรรจง โดยจะเปิดส่วนที่นูนของเบี้ยไว้ แผ่นตะกั่วที่หุ้มเบี้ยแก้ จะมีการลงอักขระกำกับไว้ โดยการใช้เหล็กจาร หากดูผิวเผินอาจจะมองไม่เห็นชัด และตัวอักษรที่จารจะมีรอยเส้นเรียบ เบี้ยแก้ทุกเบี้ยจะถักด้ายหุ้มไว้ ในการถักด้ายจะมี ๒ แบบ คือ ถักหุ้มปิดหลังเบี้ย และถักหุ้มเปิดหลังเบี้ย แล้วทาด้วยยางมะพลับ หรือยางหมาก ปิดทับไว้อีกชั้นหนึ่ง

สรรพคุณเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง จัดเป็นเครื่องรางของขลังที่สารพัดดี ใช้สำหรับกัน และแก้คุณไสย ภูติผี ปีศาจ สัตว์ที่มีพิษ รวมทั้งยังมีความเมตตา มหานิยมอีกด้วย ถือว่าเป็นเบี้ยแก้ที่ครบเครื่องเลยทีเดียว 

(ของปลอมก็เยอะ ระมัดระวังในการหาเช่าบูชาด้วยครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น