วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เบี้ยแก้ หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม วัดนางใน

เบี้ยแก้ (สายอ่างทอง) หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม วัดนางใน (วัดนางในธัมมิการาม) ตำบลศาลเจ้าโรงทอ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เบี้ยแก้ของท่านเป็นหนึ่งในเบี้ยแก้ที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ใครเช่นเดียวกัน โดยมีประสบการมากมายจากผู้มีไว้บูชา จนเลื่องลือไปทั่วสารทิศ ใครๆ ก็ต่างเสาะแสวงหามาไว้ครอบครอง จัดเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเบี้ยแก้แห่งประเทศไทยเช่นเดียวกัน


หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิทยาคมเข้มขลัง โดยได้ร่ำเรียนเขียนอ่านอักขระขอมมาตั้งแต่ยังเยาว์กับพระอธิการพ่วง ผู้เป็นพระพี่ชายที่วัดสามจุ่น ซึ่งไม่ไกลจากบ้านของท่าน พออายุครบ ๒๐ ปี หลวงพ่อนุ่มก็เข้าอุปสมบทที่วัดปลายนา ตำบลปลายนา อำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี และได้ศึกษากับพระครูธรรมสารรักษา(อ้น) วัดบุปผาราม พระอุปัชฌาย์ซึ่งมีชื่อเสียงใน จ.สุพรรณบุรี ในสมัยนั้น รวมถึงได้ศึกษาจากตำราโบราณต่างๆ จนเชี่ยวชาญ

หลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโน วัดนางใน ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ อีกทั้งยังแลกเปลี่ยนวิชากับอีกหลายพระคณาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ

โดยหลวงพ่อนุ่มได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาส วัดนางในธัมมิการาม ตำบลศาลเจ้าโรงทอ อำเภอวิเศษชัยชาญ ในปี พ.ศ.๒๔๖๙ และเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดนางในจากนั้นเป็นต้นมา

การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ส่วนหนึ่งเพื่อตอบแทนญาติโยมที่มาทำบุญถวายปัจจัยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดนางใน เพราะในขณะที่ท่านเริ่มมาอยู่นั้น วัดนางในชำรุดทรุดโทรมเป็นอันมาก ทว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อนุ่มเป็นที่นิยมกันมาก รวมถึงเบี้ยแก้ ที่หลวงพ่อนุ่มท่านสร้างเช่นเดียวกัน

เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน มีสองลักษณะ คือ ทำจากเบี้ยพลู ขนาดใหญ่พอๆกับของหลวงพ่อพัก (หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์) และเบี้ยจั่น ซึ่งมีขนาดเล็ก นิยมให้เด็ก หรือผู้หญิงไว้ห้อยคอ

เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ที่ทำจากเบี้ยพลู ด้านหลังจะเหมือนๆ กับเบี้ยแก้ของคณาจารย์อื่นในอำเภอวิเศษชัยชาญ แต่ใต้ท้องเบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่มนั้น จะอุดชันนะโรงเกือบเต็มใต้ท้องเบี้ย และเบี้ยแก้ที่ทำด้วยเบี้ยจั่น ก็จะอุดชันนะโรงเกือบเต็มใต้ท้องเบี้ยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าสังเกตุให้ดีเราจะเห็นมีฝ้าขาวๆ ปกคลุมอยู่ เนื่องจากหลวงพ่อนุ่มท่านใช้กระดาษสาปิดทับบางๆ ไปอีกชั้นหนึ่ง

เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ชาวบ้านที่ได้รับไปแล้ว ก็มักนำไปเหลี่ยมกรอบตามร้านในตลาดวิเศษชัยชาญ เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ถ้าดูแค่กรอบจึงจะแยกยากกับเบี้ยแก้ของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เพราะมักเหลี่ยมกรอบร้านเดียวกัน แต่ถ้าแกะออกมาดู ผู้เชี่ยวชาญมักจะแยกออกว่าเป็นเบี้ยแก้ของวัดไหน เพราะแต่ละวัดท่านก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตนอยู่เช่นกัน

สรรพคุณเบี้ยแก้ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

เบี้ยแก้ของหลวงพ่อนุ่มนั้น สรรพคุณต้องบอกว่าเหลือคำจะอธิบายได้ สารพัดจะอธิฐาน ป้องกันได้สารพัด  ทั้งอัตวินิบาตกรรม แก้ภาพหลอน จิตหลอน ภาพอุปทาน แก้อำนาจภูผีปีศาจ อาถรรพณ์เวท ทำให้มัวเมา ขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวง อุปัทวเหตุอันตราย อุบาทว์ภัยทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข่ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล

ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า ข้าวตอก ดอกไม้ แก้บาทพิษ บาดทะยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ซางชัก รางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลงในคุณพระศรีรัตนตรัย ใช้ได้แล

เมื่อเข้าศึกสงคราม ให้เอาไว้ด้านหน้าสารพัดศัตรู บีทาย่ำรุกไล่ ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย ดุจฝนเสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล

ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี มีในป่ามืด ในน้ำห้วยหนอง คลองบึง มันไม่เกาะกินเลือด ทั้งวัว ทั้งควาย ช้างม้า ก็ดีแล แก้งูพิษ เขี้ยวขนอน แมวเซา เห่าแก้วก็ดี มิต้องกายมาขบกัดเลยแล

บทสวดบูชา หรือคาถาเสก เบี้ยแก้

ตั้งนะโม 3 จบ เสร็จแล้วให้ตั้งธาตุ 

นะ มะ พะ ทะ (๓ จบ) 

จะ ภะ กะ สะ (๓ จบ) 

เมื่อตั้งธาตุเสร็จแล้ว ให้ภาวนาคาถา ๓ จบ ดังนี้

“อะสิสะติ ธะนูเจวะ สัพเพเต อาวุธานิจะ ภัคคะ ภัคคา วิจุนนานิ โลมังมาเม นะผุสสันติ”

สู้ไว้ข้างหน้า ไม่กล้าไว้ข้างหลัง เมตตามหานิยมไว้ขวา กันอาวุธศาสตราไว้ซ้าย แขวนคอ แก้ลมเพลมพัด อัมพาต แขน ขา ปาก คอ หลัง ลิ้นกระด้าง ถอนคุณไสยรูปรอยลงบนใบหมอน คลึงแป้งถอนคุณ คลึงปูนถอนพิษ ถอนเสา ถอนพระภูมิ ศาลเจ้า เจว็ด เสมา กำแพง เสกภาวนา 

“สมุหะเนยยะ สะมุหะนะติ สะมุหะคะโต สีมาคะตัง พันธะเสมายัง สะมุหะนิตัพโพ เอวังเอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาเคลื่อน ยะเลื่อนหลุดลอย สวาหะ”

ภาวนาอภัยกรรม ให้คนเกลียดโกรธ เพ่งโทษ จองเวร ให้หายพยาบาท อาฆาตพยาเวรต่อกันแล้วดีกัน หายกัน แล

“นะเมตตา จะมหาราชา อะเมตตา จะมหาเสนา อุเมตตา จะมหาชะนา สัพพะสิเนหา จะปะชิตาสะ สัพพะสะยัง จะมหาลาภัง ราชาโกธัง วินาสสันติ ชะนาโกธัง วินาสสันติ สัพพะโกธัง วินาส สันติ”

วิธีใช้เบี้ยแก้ ตั้งนะโม ๓ จบ

“อิติปิโส ภะคะวา ยาตรายามดี ได้ยามพระศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ”

แล้วสวดคาถาหัวใจต่อ 

“อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ พุท ธะ สัง มิ อิ สะ วา สุ”

ใช้สวดก่อนจะพกติดตัวทุกครั้ง ก่อนออกจากบ้านไปทำธุระข้างนอก เช่น ไปติดต่องาน ค้าขาย เดินทางไปในสถานที่ต่างๆ เป็นต้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น